การกิจเจ ถือเป็นเทศกาลสำคัญที่มีขึ้นทุกปี ซึ่งจะตรงกับเดือน 11 (เดือนตุลาคม) ตามปฏิทินสากล หากเป็นปฏิทินจีนก็ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 รวมเป็นเวลาทั้งสิ้น 9 วัน 9 คืน หรือบางคนอาจจะยึดถือเอาแนวทางกินเจปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เช่นกินเฉพาะวันพระ วันเกิด บางคนเคร่งครัดมาก ๆ ก็กินไปตลอดชีวิตเลยก็มีโดยผู้ที่ทานนั้นจุดประสงค์หลัก ๆ ก็แบ่งได้ 3 ประเภทดังนี้
ทานเพื่อสุขภาพ
มีความเชื่อผิด ๆ ที่ว่าการทานเจจะทำให้เกิดโรคขาดสารอาหาร แต่มีการเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ชี้ว่า ไม่ว่าจะทานเจ หรือทานปกติ หากทานอาหารไม่ถูกหลัก หรือทานให้ครบ 5 หมู่ ก็ทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารได้ ที่สำคัญการทานเจที่ละเว้นเนื้อสัตว์ แต่นำแหล่งโปรตีนมาจากพืชเช่นน้ำนมถั่วเหลือง เต้าหู้ เต้าเจี้ยว น้ำเต้าหู้ น้ำมันถั่วเหลือง ซีอิ๊ว ฯลฯ อุดมไปด้วยโปรตีนมากเนื้อสัตว์อีกด้วย สำหรับผู้ที่ทานเจเป็นประจำสิ่งที่ร่างกายจะได้รับก็คือ
ล้างสารพิษในร่างกาย – เพราะอาหารประเภทผัก ผลไม้ ช่วยในเรื่องของการขับถ่าย ทำให้ขับของเสีย และสารพิษ
ช่วยฟอกโลหิต – การกินเจ จะทำให้โลหิตมีความสะอาดมากขึ้น ช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ในร่างกาย ทำให้มีอายุยืนยาว ผิวพรรณสดใส สายตาดีขึ้น ร่างกายแข็งแรง
อวัยวะภายในทำงานปกติ – ไม่ว่าจะเป็น หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ กระเพาะปัสสาวะ กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ร่างกายต้านสารพิษได้ดีขึ้น – ไม่ว่าจะเป็นสารเคมีต่าง ๆ ที่แฝงอยู่ทั่วไป ก๊าซพิษ สารอาหารที่อยู่ในผักจะทำให้เซลล์ในร่างกายทนต่อการถูกทำลายได้ดีขึ้น
ลดความเสี่ยงจากโรครุนแรง – การกินเจเป็นประจำจะให้ห่างไกลจากโรครุนแรง เรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง เส้นเลือดตีบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ
ทานด้วยจิตเมตตา
หลักสำคัญในการทานอาหารเจก็คือไม่ทานเนื้อสัตว์ ที่ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีเลือดเนื้อ และรักชีวิตเช่นเดียวกับมนุษย์ ผู้ที่ทานเจจึงถือว่าเป็นผู้มีจิตใจเมตตา มีจิตสำนึกที่ดี
เพื่อเว้นกรรม
ก่อนที่สัตว์จะมาเป็นอาหารต้องถูกฆ่าเพื่อเอาเนื้อ ผู้ที่กินก็ถือว่ามีส่วนร่วมในการสร้างกรรม การทานเจ ในช่วงเวลาใดเวลานึ่งถือว่าเป็นการละเว้นการทำบาปกรรมได้
การกินเจ ถือเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ไม่มีใครถูกใครผิดขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ สิ่งสำคัญที่สุดความศรัทธา และการปฏิบัติต่าง ๆ ที่ทำต้องไม่ส่งผลร้าย หรือทำให้ตัวเอง หรือผู้อื่นเกิดความเดือดร้อนเท่านั้นก็พอแล้ว