มือเท้าปาก โรคอันตรายที่อาจจะทำให้เด็กเสียชีวิตได้

520

มือเท้าปากโรคที่มีอาการคล้ายกับการเป็นหวัด คือมีแผลร้อนในเกิดขึ้นในปาก รวมไปถึงการมีผื่นแดง ตุ่มใส เล็ก ๆ ตามก้น ฝ่ามือนิ้วมือ ฝ่าเท่านิ้วเท้า มีอาการป่วยเป็นไข้ระยะประมาณ 1 สัปดาห์

มือเท้าปาก

โดยส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นกับเด็กโดยเด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ขวบจะมีอาการรุนแรงกว่าเด็กโต (ในผู้ใหญ่ก็สามารถพบเจอได้แต่ไม่มาก) โดยสาเหตุก็มาจากกลุ่มไวรัสที่ชื่อเอนเทอโรไวรัส ซึ่งสายพันธุ์ที่ทำให้เกิดโรคก็อย่างเช่น คอกซากีไวรัส เอ16 และเอนเทอโรไวรัส 71

โรคนี้เมื่อเป็นแล้วอาจจะมีอาการแทรกซ้อนจากโรคต่าง ๆ ตามมาเช่น สมองอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ กล้ามเนื้อไม่มีแรงอัมพาต  กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หากร้ายแรงก็จะทำให้เสียชีวิต ถึงแม้จะมีตุ่ม แผลต่าง ๆ เพียงเล็กน้อยก็สามารถเกิดอาการแทรกซ้อนได้เช่นกัน โดยสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรรีบไปพบแพทย์ในทันทีเพราะเสี่ยงที่จะมีอาการแทรกซ้อนรุนแรงเช่น

เด็กจะเซื่องซึม หน้าซีด เบื่ออาหาร  ปวดศีรษะรุนแรง พูดเพ้อ เห็นภาพหลอน ปวดคอ ต้นคอแข็ง สับสนงุนงง หายใจเร็ว อาเจียน เสมหะมาก ไอ  มีอาการผวา ร่างกายสั่น หายใจเร็วถี่ มีไข้

สำหรับการรักษาโรคมือเท้าปากนั้นยังไม่มีการรักได้เฉพาะโรค จะเป็นการรักษาตามอาการที่เกิดขึ้นเช่น หากผู้ป่วย เจ็บคอ ทานอาหารไม่ได้ หมอจะให้ป้อนน้ำ หรืออาหารอ่อน ๆ หากเพลียมากก็จะมีการเติมน้ำเกลือ รวมไปถึงให้ยาต่าง ๆ ตามอาการที่พบ

การป้องกันโรคมือเท้าปากในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีน ดังนั้นการป้องกันก็คือต้องใส่ใจสุขอนามัย โดยการหลีกเลี่ยงไม่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย ทำความสะอาดล้างมือทุกครั้งหลังจากจับสิ่งของต่าง ๆ และก่อนทานอาหาร ทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ สะอาด ไม่มีแมลงวันตอม ไม่ควรใช้ภาชนะการทานอาหารร่วมกับผู้อื่น หากพ่อแม่เช็ดน้ำลาย หรือน้ำมูกให้ลูกต้องรีบล้างมือให้สะอาด รวมไปถึงให้รีบทำความสะอาดอุจจาระ ทำลายทิ้งผ้าอ้อม ลงในโถส้วม เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง ที่ความเสี่ยงที่จะติดโรคได้แล้ว

ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเฝ้าระวังโรคมือเท้าปากพ่อแม่ควรดูแลลูกอย่างใกล้ชิด หมั่นสังเกตอาการ ถึงแม้จะมีไข้เพียงน้อยนิดแต่เป็นอาการป่วยที่แปลกออกไป ก็ควรนำลูกไปพบแพทย์โดยทันที และหลังจากนั้นก็ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด (และให้หยุดเรียน) อีกประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อสังเกตอาการ รวมไปถึงเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ ถึงแม้อาการไข้ ตุ่มหรือแผลจะหายแล้วก็ตาม

Previous articleปวดหัวข้างซ้าย เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง หากปวดแล้วควรทำอย่างไร
Next articleสครับผิวขาวด้วยตัวเองให้กระจ่างใส ผิวดูมีสุขภาพดี