ใคร ๆ ก็ไม่อยากแก่กันทั้งนั้น ไม่ใช่แค่แก่แล้วผิวเหี่ยว ไม่สวย แต่ยังหมายถึงสุขภาพที่ย่ำแย่อีกด้วย เพราะความแก่ ไม่ได้หมายถึงความหนุ่มสาวเพียงอยางเดียว แต่ยังหมายถึงระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายอีกด้วย วันนี้เราเลยมาแนะนำ 4 อาหารชะลอวัย กินแล้วไม่แก่ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ดูแลทั้งสุขภาพและผิวพรรณ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
น้ำมะพร้าว
หลายคนไม่รู้ว่ามะพร้าวนอกจากจะให้ความสดชื่นให้แก่ร่างกายแล้ว ยังมีเป็นอาหารชะลอวัย กินแล้วไม่แก่ ช่วยให้สุขภาพดี เนื่องจากในน้ำมะพร้าวมีฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในเรื่องของการสร้างคอลลาเจน จึงทำให้ผิวเต่งตึง เปล่งปลั่ง และสวยงาม
สำหรับใครที่ชอบดื่มน้ำมะพร้าวอยู่แล้ว ก็ถือว่าโชคดีไป แต่หากว่าใครไม่อยากผิวเหี่ยวหรือมีริ้วรอย การดื่มน้ำมะพร้าวก็ช่วยได้ไม่น้อย แต่แนะนำว่าให้ดื่มแบบสด ไม่ใส่น้ำตาล หรือนมจะดีที่สุด
ทับทิม
สำหรับผลไม้อีกอย่างที่แม้จะมีเม็ดเยอะ กินค่อนข้างยาก แต่ก็มีวิตามินซีอยู่สูงมาก และเป็นหนึ่งในอาหารชะลอวัย กินแล้วไม่แก่ เราสามารถรับประทานแบบทั้งเม็ดเลยก็ได้ แต่หากว่าใครดื่มแบบคั้นสด ก็ให้มั่นใจว่าไม่มีน้ำตาลผสม แต่ไม่แนะนำให้ดื่มแบบผสมไซรัป เพราะอาจจะทำให้เรามีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกินได้เช่นเดียวกัน
แซลมอน
ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของปลาแซลมอน ก็คงจะยิ้มแก้มปริไม่น้อย เพราะเป็นหนึ่งในอาหารชะลอวัย กินแล้วไม่แก่ ด้วยในปลาแซลมอนมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่สูงปรี๊ด ทำให้ร่างกายและผิวของเราสู้แดดและรังสียูวีได้ดีกว่าเดิม ซึ่งเราก็ต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า รังสียูวีนั้น เป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายผิว และทำให้เกิดริ้วรอย
อย่างไรก็ตาม หากว่าใครเลือกรับประทานแซลมอนสด โดยไม่ผ่านการปรุง ก็ควรจะตรวจสอบให้ดีว่า สะอาดและถูกหลักอนามัยหรือไม่ ไม่เช่นนั้นอาจจะมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้เช่นเดียวกัน
อะโวคาโด
ผลไม้แสนอร่อยที่อุดมไปด้วยไขมันชนิดดี และเป็นหนึ่งในส่วนผสมของอาหารสุขภาพแทบจะทุกจานอีกด้วย ช่วยบำรุงร่างกาย มีวิตามินเอ ดี และอี ที่ช่วยดูแลสุขภาพและผิว เรียกว่าเป็นอาหารชะลอวัย กินแล้วไม่แก่อย่างแท้จริง แถมยังอยู่ท้องอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาหารชะลอวัย กินแล้วไม่แก่ที่กล่าวไปทั้งหมดนี้จะดีต่อสุขภาพ แต่สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องจำเอาไว้ก็คือ อย่ารับประทานมากจนเกินไป และควรจะรับประทานอาหารให้หลากหลาย ก็จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และไม่แก่เร็ว