วันวาเลนไทน์เป็นเทศกาลที่มีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจในแต่ละปี หนึ่งในผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดคือการขายช่อดอกไม้ในวันวาเลนไทน์และของขวัญอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์ก่อนวันวาเลนไทน์ ธุรกิจร้านดอกไม้มีการเติบโตอย่างมาก เพราะช่อดอกไม้ในวาเลนไทน์เป็นของขวัญยอดนิยมที่คนมักจะมอบให้กันเพื่อแสดงความรัก
ตามรายงานของสหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ คาดว่าชาวอเมริกันจะใช้เงินเฉลี่ย 196.31 ดอลลาร์ไปกับการซื้อของขวัญวันวาเลนไทน์ โดยของขวัญส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องประดับ การออกไปเที่ยวกลางคืน และช่อดอกไม้ โดยมีการคาดการณ์ว่าประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์นั้นถูกใช้จ่ายไปกับช่อดอกไม้เสียเป็นส่วนใหญ่
นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับร้านดอกไม้เลยก็ว่าได้ ที่ธุรกิจร้านดอกไม้ในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยการเพิ่มขึ้นของยอดดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างงานให้ร้านดอกไม้ พนักงานขับรถส่งของ และคนงานอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมค้าปลีกและบริการด้วย ถึงแม้ว่างานเหล่านี้อาจจะเป็นงานชั่วคราว แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
นอกจากร้านดอกไม้แล้ว ธุรกิจอื่น ๆ ยังมียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วงวันวาเลนไทน์อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ร้านอาหารที่มักมีการจองสำหรับอาหารค่ำในวันวาเลนไทน์เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ร้านจิวเวลรี่ยังมียอดขายเพิ่มขึ้นเนื่องจากหลายคนเลือกที่จะมอบเครื่องประดับเป็นของขวัญในวันวาเลนไทน์ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ วันวาเลนไทน์ยังมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจในด้านอื่น ๆ ด้วย เนื่องจากผู้คนมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินไปกับข้าวของต่าง ๆ เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ผู้คนอาจซื้อเสื้อผ้าใหม่หรือทำทรงผมใหม่เพื่อให้ดูดีที่สุดสำหรับวันวาเลนไทน์ พวกเขาอาจซื้อของขวัญให้เด็ก เพื่อนสนิท หรือเพื่อนร่วมงาน และการซื้อของเหล่านี้ถือเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานในอีกทางหนึ่ง
โดยรวมแล้ว วันวาเลนไทน์เป็นเทศกาลที่มีผลกระทบในเชิงบวกอย่างมากต่อเศรษฐกิจ การขายช่อดอกไม้และของขวัญอื่น ๆ ได้เป็นจำนวนมากนั้นเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงเทศกาลวันหยุด มันไม่เพียงแต่สร้างงาน แต่ยังช่วยเพิ่มยอดขายของอุตสาหกรรมอื่น ๆ ด้วย ดังนั้นหากคุณกำลังดำเนินธุรกิจอยู่ ก็ถือเป็นความคิดที่ดีที่จะใช้ประโยชน์จากเทศกาลวาเลนไทน์เพื่อสร้างรายได้และยอดขายให้เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว