เครื่องทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารในครัวเรือน ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่น้อยในการแก้ปัญหาของพ่อบ้านแม่บ้าน ที่ปกติหากทิ้งลงถังขยะก็มักจะส่งกลิ่นเหม็นรบกวน รวมไปถึงยังกลายเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ หรือแมลงต่าง ๆ ที่สำคัญเครื่องย่อยเศษอาหารนอกจากจะกำจัดขยะได้แล้ว ยังสามารถแปรสภาพเศษอาหารไปเป็นปุ๋ยได้อีกด้วย จึงเป็นการช่วยลดปริมาณขยะ และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปในตัวได้เป็นอย่างดี โดยเครื่องกำจัดเศษอาหารที่นิยมกันมากที่สุดก็คือเครื่องหมักเศษอาหารแบบใช้ไฟฟ้า
เพราะเป็นเครื่องที่สามารถย่อยสลายเศษอาหาร โดยการเสียบไฟฟ้าทิ้งไว้ เพื่อให้อุณหภูมิอยู่ในระดับที่คงที่ ทำให้กระบวนการทำลายเศษอาหารจนย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยได้เร็วมากขึ้น (ใช้เวลาประมาณ 24-48 ชั่วโมง ซึ่งการทำปุ๋ยหมักแบบดั้งเดิมใช้เวลา 2 สัปดาห์ขึ้นไป) ที่สำคัญถึงแม้จะเสียบไฟไว้ตลอดเวลา แต่ก็ใช้แค่ประมาณ 65 วัตต์/ชั่วโมง เท่านั้น (ประมาณ150-180 บาท/เดือน)โดยการทำงานของเครื่อง จะอาศัยจุลินทรีย์ ความร้อน และอากาศ ในการย่อยสลาย
เครื่องทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหารแบบใช้ไฟฟ้ายังมีขนาดไม่ใหญ่ มีความกะทัดรัด ทำให้ติดตั้งได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือที่พักอาศัยที่มีพื้นที่จำกัดอย่างคอนโดฯ ก็สามารถใช้ได้ ซึ่งวิธีใช้ก็ไม่ยุ่งยากสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
เริ่มต้นให้แยกเศษอาหารออกจากน้ำ และสิ่งที่มีความแข็งเช่น กระดูก เปลือกหอย แล้วจึงนำเศษอาหารที่แยกแล้วลงใส่ลงไปในเครื่องทำปุ๋ย แล้วปิดฝาเครื่องจะเริ่มทำการคลุกเคล้าเศษอาหารเข้ากับ หัวเชื้อจุลินทรีย์ และอากาศที่มีในเครื่องอยู่แล้ว หลังจากผ่านไปประมาณ 1 วันเศษอาหารจะถูกย่อยสลาย และทำการหมักจนเสร็จสิ้น
เมื่อได้ปริมาณปุ๋ยที่กำหนดก็นำไปใช้งานได้เลย แต่ก็ไม่ควรตักออกจนหมดควรเหลือไว้ในเครื่องบางส่วนเพราะหากเราเติมเศษอาหารเข้าไปใหม่จะได้ไม่ต้องเติมหัวเชื้อจุรินทรีย์
เพียงแค่นี้เราก็จะสามารถกำจัดเศษอาหาร พร้อมกับแปรสภาพเป็นปุ๋ยหมักไว้ใส่ต้นไม้ ดอกไม้ พืชผักให้เจริญงอกงาม โดยไม่ต้องมาปวดหัวกับการหาที่ทิ้ง และกลิ่น ๆ เหม็น ๆ อีกต่อไปแล้ว
เครื่องทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร ถือว่าเป็นเทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่ที่สามารถช่วยปรับคุณภาพชีวิตภายในบ้าน และรักษาสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน และยังเข้าได้กับทุกไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าอีกไม่นานเครื่องหมักเศษอาหารแบบใช้ไฟฟ้าจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่ทุกบ้านต้องมีอย่างแน่นอน