จัดการความเครียด จากการทำงานแบบ Work From Home (WFH)

5

การทำงานแบบ Work From Home เปิดโอกาสให้พนักงานมีความยืดหยุ่น แต่ก็สร้างความท้าทายด้านสุขภาพจิต ความเครียดจากการทำงานที่บ้านอาจเกิดจากความไม่ชัดเจนของเวลา ความกดดันเรื่องประสิทธิภาพ หรือความรู้สึกโดดเดี่ยว การรู้จักสังเกตและจัดการความเครียดอย่างถูกวิธีช่วยให้ชีวิตการทำงานราบรื่นขึ้น

จัดการความเครียด จากการทำงานแบบ Work From Home (WFH)
จัดการความเครียด จากการทำงานแบบ Work From Home (WFH)

การสร้างวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสภาพแวดล้อม จะช่วยให้ WFH กลายเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง แทนที่จะเป็นแรงกดดัน เทคนิคการจัดการความเครียดเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ แต่ยังส่งเสริมสุขภาพจิตและความสมดุลของชีวิต

สร้างตารางเวลาและแบ่งเวลาให้ชัดเจน

การทำงานจากบ้านอาจทำให้เวลาในการทำงานและเวลาพักผสมกัน การกำหนดเวลาเริ่มงาน เวลาอาหารกลางวัน และเวลาเลิกงานอย่างชัดเจนช่วยให้สมองและร่างกายรู้ว่าเมื่อใดต้องโฟกัสกับงานและเมื่อใดควรพัก การวางตารางเวลาช่วยลดความสับสนและความเครียดจากการทำงานที่ไม่มีขอบเขต

นอกจากนี้ การกำหนดเวลาพักระหว่างชั่วโมงทำงาน เช่น เดินยืดเส้นยืดสาย หรือจิบน้ำช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย การสร้างกิจวัตรประจำวันทำให้การทำงาน WFH มีวินัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แนวทางจัดตารางเวลา:

  • กำหนดเวลาเริ่มและเลิกงานชัดเจน
  • วางเวลาพักระหว่างชั่วโมงทำงาน
  • จัดเวลารับประทานอาหารกลางวันอย่างมีระเบียบ
  • ใช้ปฏิทินหรือแอปช่วยเตือนกิจกรรมสำคัญ

สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เหมาะสม

สภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้านมีผลต่อความเครียดและประสิทธิภาพ ควรเลือกมุมสงบ แสงสว่างเพียงพอ และเก้าอี้หรือโต๊ะที่เหมาะสม การจัดพื้นที่ทำงานให้เป็นระเบียบช่วยให้สมองแยกแยะระหว่างเวลางานและเวลาพัก

การปรับแต่งบรรยากาศ เช่น เปิดเพลงเบา ๆ หรือปลูกต้นไม้เล็ก ๆ เพิ่มความสดชื่นช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย การแยกพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ทำงานอย่างชัดเจนช่วยลดความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือความตึงเครียด

แนวทางสร้างสภาพแวดล้อม:

  • เลือกมุมสงบและแสงสว่างเพียงพอ
  • ใช้เก้าอี้และโต๊ะที่เหมาะสมกับร่างกาย
  • จัดพื้นที่ให้เป็นระเบียบและไม่รก
  • เพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย เช่น เพลงเบา ๆ หรือต้นไม้เล็ก ๆ

ฝึกเทคนิคผ่อนคลายและหายใจอย่างถูกวิธี

การฝึกเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ การนั่งสมาธิ หรือการยืดเส้นยืดสายช่วยลดความเครียดและความตึงเครียดของร่างกาย การผ่อนคลายร่างกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สมองพร้อมโฟกัสกับงานและลดความรู้สึกเหนื่อยล้า

การตั้งเวลาเพียง 5–10 นาทีระหว่างชั่วโมงทำงานเพื่อทำเทคนิคผ่อนคลายเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลมาก การฝึกอย่างสม่ำเสมอช่วยสร้างนิสัยและทำให้การทำงาน WFH เป็นประสบการณ์ที่สุขภาพดีและไม่เครียดเกินไป

แนวทางผ่อนคลาย:

  • ฝึกหายใจลึก ๆ และช้า ๆ
  • ทำสมาธิสั้น 5–10 นาที
  • ยืดเส้นยืดสายหรือเดินรอบบ้าน
  • สร้างกิจวัตรผ่อนคลายสม่ำเสมอ

รักษาสมดุลชีวิตส่วนตัวและงาน

การแยกเวลางานและเวลาส่วนตัวช่วยลดความเครียด การกำหนดขอบเขต เช่น ไม่เช็คอีเมลหลังเวลางานหรือในวันหยุดช่วยให้สมองได้พัก การรักษาสมดุลชีวิตส่วนตัวและงานทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น

การมีงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบช่วยให้สมองผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือ เล่นดนตรี หรือออกกำลังกาย การรักษาสมดุลช่วยให้ WFH ไม่กลายเป็นความเครียดสะสมและเสริมสร้างความสุขในชีวิตประจำวัน

แนวทางรักษาสมดุล:

  • แยกเวลางานและเวลาส่วนตัวชัดเจน
  • หยุดเช็คอีเมลหลังเวลางาน
  • ทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบ
  • สร้างกิจวัตรพักผ่อนให้สม่ำเสมอ

ใช้เทคโนโลยีช่วยจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีช่วยให้การทำงาน WFH เป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่การใช้อย่างไม่ระวังอาจสร้างความเครียด การใช้เครื่องมือจัดการงาน เช่น ปฏิทินออนไลน์ แอปติดตามงาน หรือโปรแกรมสื่อสารช่วยให้การประสานงานราบรื่นและลดความสับสน

การตั้งเวลาแจ้งเตือนหรือสร้างระบบแจ้งเตือนส่วนตัวช่วยให้จัดลำดับงานได้ถูกต้องและลดความกังวล การใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมทำให้ WFH มีความราบรื่นและลดความเครียดจากการทำงานมากเกินไป

แนวทางใช้เทคโนโลยี:

  • ใช้ปฏิทินหรือแอปติดตามงาน
  • ตั้งเวลาแจ้งเตือนกิจกรรมสำคัญ
  • ใช้เครื่องมือสื่อสารให้ชัดเจนและราบรื่น
  • จัดลำดับงานตามความสำคัญและเวลาที่กำหนด

เชื่อมสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา

การทำงาน WFH อาจทำให้ความสัมพันธ์ทางสังคมลดลง การรักษาการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาช่วยลดความเครียดและสร้างความเข้าใจในการทำงาน การประชุมออนไลน์หรือแชทแบบไม่เป็นทางการช่วยให้รับรู้สถานการณ์และแบ่งปันความรู้สึก

การสื่อสารที่ชัดเจนและเปิดเผยความรู้สึกช่วยให้ลดความกังวลและสร้างความไว้วางใจ การรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมแม้จะทำงานจากบ้านเป็นวิธีสำคัญในการจัดการความเครียด

แนวทางเชื่อมสัมพันธ์:

  • นัดประชุมออนไลน์สม่ำเสมอ
  • แชทพูดคุยเรื่องงานและส่วนตัวเบา ๆ
  • แบ่งปันความคิดเห็นและปัญหาอย่างตรงไปตรงมา
  • สร้างบรรยากาศสนับสนุนและเข้าใจ

สรุป จัดการความเครียด จากการทำงานแบบ Work From Home (WFH)

การจัดการความเครียดจากการทำงานแบบ Work From Home ต้องอาศัยการสร้างตารางเวลา สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เทคนิคผ่อนคลาย การรักษาสมดุลชีวิตและงาน ใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาความสัมพันธ์ทางสังคม เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ทำงานได้ราบรื่น ลดความเครียด และเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี

การนำแนวทางเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันทำให้ WFH เป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง แทนที่จะเป็นแรงกดดัน สร้างสมดุลระหว่างชีวิตและงาน และเพิ่มความสุขในทุกวันของการทำงานที่บ้าน

Previous articleวิธีฝึกภาษาจีนกลาง ผ่านการดูหนังและซีรีส์ (Series) พร้อมเทคนิคเข้าใจเร็ว