การทำงานแบบ Work From Home เปิดโอกาสให้พนักงานมีความยืดหยุ่น แต่ก็สร้างความท้าทายด้านสุขภาพจิต ความเครียดจากการทำงานที่บ้านอาจเกิดจากความไม่ชัดเจนของเวลา ความกดดันเรื่องประสิทธิภาพ หรือความรู้สึกโดดเดี่ยว การรู้จักสังเกตและจัดการความเครียดอย่างถูกวิธีช่วยให้ชีวิตการทำงานราบรื่นขึ้น

การสร้างวิธีปฏิบัติที่เหมาะสมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสภาพแวดล้อม จะช่วยให้ WFH กลายเป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง แทนที่จะเป็นแรงกดดัน เทคนิคการจัดการความเครียดเหล่านี้ไม่เพียงช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ แต่ยังส่งเสริมสุขภาพจิตและความสมดุลของชีวิต
สร้างตารางเวลาและแบ่งเวลาให้ชัดเจน
การทำงานจากบ้านอาจทำให้เวลาในการทำงานและเวลาพักผสมกัน การกำหนดเวลาเริ่มงาน เวลาอาหารกลางวัน และเวลาเลิกงานอย่างชัดเจนช่วยให้สมองและร่างกายรู้ว่าเมื่อใดต้องโฟกัสกับงานและเมื่อใดควรพัก การวางตารางเวลาช่วยลดความสับสนและความเครียดจากการทำงานที่ไม่มีขอบเขต
นอกจากนี้ การกำหนดเวลาพักระหว่างชั่วโมงทำงาน เช่น เดินยืดเส้นยืดสาย หรือจิบน้ำช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย การสร้างกิจวัตรประจำวันทำให้การทำงาน WFH มีวินัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แนวทางจัดตารางเวลา:
- กำหนดเวลาเริ่มและเลิกงานชัดเจน
- วางเวลาพักระหว่างชั่วโมงทำงาน
- จัดเวลารับประทานอาหารกลางวันอย่างมีระเบียบ
- ใช้ปฏิทินหรือแอปช่วยเตือนกิจกรรมสำคัญ
สร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เหมาะสม
สภาพแวดล้อมการทำงานที่บ้านมีผลต่อความเครียดและประสิทธิภาพ ควรเลือกมุมสงบ แสงสว่างเพียงพอ และเก้าอี้หรือโต๊ะที่เหมาะสม การจัดพื้นที่ทำงานให้เป็นระเบียบช่วยให้สมองแยกแยะระหว่างเวลางานและเวลาพัก
การปรับแต่งบรรยากาศ เช่น เปิดเพลงเบา ๆ หรือปลูกต้นไม้เล็ก ๆ เพิ่มความสดชื่นช่วยให้ร่างกายและจิตใจผ่อนคลาย การแยกพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ทำงานอย่างชัดเจนช่วยลดความรู้สึกเบื่อหน่ายหรือความตึงเครียด
แนวทางสร้างสภาพแวดล้อม:
- เลือกมุมสงบและแสงสว่างเพียงพอ
- ใช้เก้าอี้และโต๊ะที่เหมาะสมกับร่างกาย
- จัดพื้นที่ให้เป็นระเบียบและไม่รก
- เพิ่มบรรยากาศผ่อนคลาย เช่น เพลงเบา ๆ หรือต้นไม้เล็ก ๆ
ฝึกเทคนิคผ่อนคลายและหายใจอย่างถูกวิธี
การฝึกเทคนิคผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึก ๆ การนั่งสมาธิ หรือการยืดเส้นยืดสายช่วยลดความเครียดและความตึงเครียดของร่างกาย การผ่อนคลายร่างกายและจิตใจอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สมองพร้อมโฟกัสกับงานและลดความรู้สึกเหนื่อยล้า
การตั้งเวลาเพียง 5–10 นาทีระหว่างชั่วโมงทำงานเพื่อทำเทคนิคผ่อนคลายเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลมาก การฝึกอย่างสม่ำเสมอช่วยสร้างนิสัยและทำให้การทำงาน WFH เป็นประสบการณ์ที่สุขภาพดีและไม่เครียดเกินไป
แนวทางผ่อนคลาย:
- ฝึกหายใจลึก ๆ และช้า ๆ
- ทำสมาธิสั้น 5–10 นาที
- ยืดเส้นยืดสายหรือเดินรอบบ้าน
- สร้างกิจวัตรผ่อนคลายสม่ำเสมอ
รักษาสมดุลชีวิตส่วนตัวและงาน
การแยกเวลางานและเวลาส่วนตัวช่วยลดความเครียด การกำหนดขอบเขต เช่น ไม่เช็คอีเมลหลังเวลางานหรือในวันหยุดช่วยให้สมองได้พัก การรักษาสมดุลชีวิตส่วนตัวและงานทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นและประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น
การมีงานอดิเรกหรือกิจกรรมที่ชอบช่วยให้สมองผ่อนคลาย เช่น การอ่านหนังสือ เล่นดนตรี หรือออกกำลังกาย การรักษาสมดุลช่วยให้ WFH ไม่กลายเป็นความเครียดสะสมและเสริมสร้างความสุขในชีวิตประจำวัน
แนวทางรักษาสมดุล:
- แยกเวลางานและเวลาส่วนตัวชัดเจน
- หยุดเช็คอีเมลหลังเวลางาน
- ทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ชอบ
- สร้างกิจวัตรพักผ่อนให้สม่ำเสมอ
ใช้เทคโนโลยีช่วยจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีช่วยให้การทำงาน WFH เป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่การใช้อย่างไม่ระวังอาจสร้างความเครียด การใช้เครื่องมือจัดการงาน เช่น ปฏิทินออนไลน์ แอปติดตามงาน หรือโปรแกรมสื่อสารช่วยให้การประสานงานราบรื่นและลดความสับสน
การตั้งเวลาแจ้งเตือนหรือสร้างระบบแจ้งเตือนส่วนตัวช่วยให้จัดลำดับงานได้ถูกต้องและลดความกังวล การใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมทำให้ WFH มีความราบรื่นและลดความเครียดจากการทำงานมากเกินไป
แนวทางใช้เทคโนโลยี:
- ใช้ปฏิทินหรือแอปติดตามงาน
- ตั้งเวลาแจ้งเตือนกิจกรรมสำคัญ
- ใช้เครื่องมือสื่อสารให้ชัดเจนและราบรื่น
- จัดลำดับงานตามความสำคัญและเวลาที่กำหนด
เชื่อมสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา
การทำงาน WFH อาจทำให้ความสัมพันธ์ทางสังคมลดลง การรักษาการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาช่วยลดความเครียดและสร้างความเข้าใจในการทำงาน การประชุมออนไลน์หรือแชทแบบไม่เป็นทางการช่วยให้รับรู้สถานการณ์และแบ่งปันความรู้สึก
การสื่อสารที่ชัดเจนและเปิดเผยความรู้สึกช่วยให้ลดความกังวลและสร้างความไว้วางใจ การรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมแม้จะทำงานจากบ้านเป็นวิธีสำคัญในการจัดการความเครียด
แนวทางเชื่อมสัมพันธ์:
- นัดประชุมออนไลน์สม่ำเสมอ
- แชทพูดคุยเรื่องงานและส่วนตัวเบา ๆ
- แบ่งปันความคิดเห็นและปัญหาอย่างตรงไปตรงมา
- สร้างบรรยากาศสนับสนุนและเข้าใจ
สรุป จัดการความเครียด จากการทำงานแบบ Work From Home (WFH)
การจัดการความเครียดจากการทำงานแบบ Work From Home ต้องอาศัยการสร้างตารางเวลา สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เทคนิคผ่อนคลาย การรักษาสมดุลชีวิตและงาน ใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ และรักษาความสัมพันธ์ทางสังคม เทคนิคเหล่านี้ช่วยให้ทำงานได้ราบรื่น ลดความเครียด และเสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดี
การนำแนวทางเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันทำให้ WFH เป็นโอกาสในการพัฒนาตนเอง แทนที่จะเป็นแรงกดดัน สร้างสมดุลระหว่างชีวิตและงาน และเพิ่มความสุขในทุกวันของการทำงานที่บ้าน